16 Apr เลือกซื้อไม้อัดอย่างไรในงานเฟอร์นิเจอร์? ทำความรู้จัก ไม้ปาร์ติเกิล / ไม้ MDF / ไม้ HMR แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีที่สุด
ไม้ปาร์ติเกิลบอร์ด แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง (MDF) และไม้กันชื้น (HMR) เป็นวัสดุสามชนิดที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการก่อสร้าง โดยวัสดุแต่ละชนิดนั้นมีคุณสมบัติและคุณลักษณะเฉพาะในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักไม้อัดทั้งสามชนิดนี้กันว่าไม้แต่ละชนิดคืออะไรและเหมาะกับการใช้งานแบบไหน
ไม้ปาร์ติเกิลบอร์ด (Particle Board)
ไม้ปาร์ติเกิล (Particle Board) คือ แผ่นไม้ที่ทำจากเศษไม้ ขี้เลื่อย และเศษไม้อื่นๆ ผสมกับสารประสานเรซินแล้วอัดเข้าด้วยกัน โดยหลัก ๆ จะผลิตจากการนําไม้ยางพารามาบดย่อยเป็นชิ้นขนาดเล็กแล้วนํามาอัดขึ้นรูปเป็นแผ่นด้วยความร้อน กาวพิเศษ และแรงอัด พร้อมผ่านกระบวนการทางเคมีเพื่อสามารถป้องกันความชื้นและปลวก โดยจะผลิตเป็นแผ่นไม้สําเร็จรูปขนาด 1.2*2.4 เมตร และมีความหนาต่าง ๆ กัน ได้แก่ 9 มม. 12 มม. 16 มม. และ 19 มม. เป็นต้น กระดานที่ได้จะมีพื้นผิวที่สม่ำเสมอและมีพื้นผิวที่เรียบ
ไม้ปาร์ติเกิลนั้นใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากประโยชน์หลักอย่างหนึ่งของไม้ปาร์ติเกิลคือราคาย่อมเยา คุ้มราคา ใช้งานง่าย โดยมีราคาถูกกว่าไม้อัดประเภทอื่น เช่น ไม้ MDF และ HMR อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาซึ่งทำให้ง่ายต่อการขนส่งและติดตั้ง อย่างไรก็ตาม ไม้ปาร์ติเกิลนั้นไม่แข็งแรงเท่าไม้ประเภทอื่น และมีโอกาสถูกความชื้นทำลายได้ง่ายกว่า จึงไม่แนะนำให้ใช้ในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว ในปัจจุบัน ไม้ปาร์ติเกิลมีการพัฒนาให้กันความชื้นได้ แต่ยังหาซื้อได้ยากเพราะยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก
แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง (Medium Density Fiber Board หรือ MDF)
ไม้ MDF เป็นไม้อัดที่มีความคล้ายกับไม้ปาร์ติเกิลเนื่องจากผลิตจากการนำขี้เลื่อยหรือเส้นใยไม้ผสมกับสารประสานเรซินและบีบอัดภายใต้แรงกดและความร้อนสูงเหมือนกัน โดยแผ่นไม้ที่ได้จะมีความหนาแน่น แข็งแรง และมีพื้นผิวที่สม่ำเสมอ ไม้ MDF นั้นเหมาะกับการใช้งานภายในและถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการก่อสร้าง เนื่องจากมีความอเนกประสงค์และราคาต่างจากไม้ปาร์ติเกิลไม่มาก
ข้อดีอย่างหนึ่งของไม้ MDF คือความแข็งแรงและความทนทาน มีความแข็งแรงกว่าไม้ปาร์ติเกิลและสามารถรับน้ำหนักและแรงกดได้มากกว่า อีกทั้งยังใช้งานง่ายและสามารถตัด เจาะ และขึ้นรูปได้โดยที่ไม้ไม่แตกหรือร้าว อย่างไรก็ตามไม้ MDF นั้นมีควา หนัก และเสี่ยงจากการบวมและขึ้นราเมื่อโดนความชื้น จึงต้องมีการปิดผิวและเคลือบสีเพื่อป้องกันความชื้น ไม้ชนิดนี้จึงไม่เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
ไม้กันชื้น (High Moisture Resistance board หรือ HMR)
ไม้ HMR เป็นไม้อัดประเภทหนึ่งที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้ทนทานต่อความชื้น หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็นไม้ MDF กันชื้น ไม้ HMR ผลิตโดยการเพิ่มเรซินที่ทนต่อความชื้นลงในเส้นใยไม้และบีบอัดภายใต้ความดันและความร้อนสูง แผ่นที่ได้จะมีความแข็งแรง ทนทาน ทนความชื้นได้ดีกว่าไม้อัดชนิดอื่น และมีเอกลักษณ์คือมีสีเขียว
ข้อดีของไม้ HMR คือทนทานต่อความชื้น กันน้ำ ไม่บวมง่าย สามารถใช้ในบริเวณที่มีความชื้นสูงได้ เช่น ห้องน้ำและห้องครัว อีกทั้งไม้ HMR ยังเปลี่ยนรูปได้ยากกว่าและแข็งแรงกว่าไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดและ MDF จึงเหมาะสำหรับใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์และงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน
โดยสรุปแล้วไม้ปาร์ติเกิล ไม้ MDF และไม้ HMR ล้วนเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการก่อสร้าง โดยวัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและคุณลักษณะเฉพาะในการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม้ปาร์ติเกิลเป็นตัวเลือกที่มีราคาย่อมเยาที่สุด แต่ไม่แข็งแรงเท่าไม้ประเภทอื่น และเสี่ยงต่อความเสียหายจากความชื้นมากกว่า ส่วนไม้ MDF จะมีความแข็งแรงกว่าไม้ปาร์ติเกิลและง่ายต่อการใช้งาน แต่ก็ไวต่อความเสียหายจากความชื้นเช่นกัน และสุดท้ายไม้ HMR ถือว่ามีความแข็งแรงและทนทานต่อความชื้นมากที่สุด แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่แพงกว่า
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญมากกว่าราคาคือการเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา ถ้าหากพื้นที่ที่ต้องการใช้งานไม่ได้มีความชื้นสูง การใช้ไม้ปาร์ติเกิลหรือไม้ MDF ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว อีกทั้งการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้อัดให้ดีก็จะยิ่งช่วยยืดอายุเฟอร์นิเจอร์ของเราให้ดูใหม่อยู่เสมอและใช้งานไปได้อีกนาน
อ่านเพิ่มเติม: 7 วิธีการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้อัดที่คุณควรรู้